วันพุธ, มีนาคม 06, 2556
เกิร์ลคงไม่กล่าวถึงข้อมูลที่่กล่าวถึงกันมากแล้ว
อย่างเช่น ใครบ้างที่เสี่ยง ผู้ป่วยตายมากแต่ไหน ป้องกันอย่างไร ฯลฯ
แต่เกิร์ลจะขอกล่าวถึงประเด็นที่เป็นข้อสงสัยกันมานานแต่กล่าวถึงกันน้อยบ้างนะคะ

>>>
ผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย ควรคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear ) ไหม?
ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว จะได้รับประโยชน์อะไรจากวัคซีน HPV ไหม?
ผู้ชาย ต้องฉีดหรือฉีด HPV ได้ไหม?
<<<



ก่อนพูดคุยเรื่องแรกกัน มากล่าวถึงข้อสุดท้ายกันก่อนนะคะ 55
ผู้ชาย ฉีด HPV vaccine ได้  แต่ต้องหรือไม่ต้องนั้น>>ยังไม่ชัดเจนค่ะ
จริงอยู่ที่มะเร็งปากมดลูกที่ผู้หญิงเป็น มาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
ไวรัส HPV ที่ทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกมาจากผู้ชาย
แต่ข้อมูลที่ว่า ฉีดวัคซีน HPV ให้กับผู้ชาย เพื่อลดการติดเชื้อ HPV ของผู้หญิงที่ผู้ชายคนนั้นมีเพศสัมพันธ์ด้วยยังไม่ชัดเจน
ถ้าผู้ชายคนใดจะฉีด ก็ฉีดได้ค่ะ ถ้าเกิร์ลจำไม่ผิด อย อนุมัติการฉีด HPV ในผู้ชายแล้ว
ประโยชน์ต่อผู้ชายที่ฉีด คือป้องกันผลของไวรัส HPV ของผู้ชายคนนั้น
เช่น สายพันธุ์ 6, 11 ที่ไม่ก่อมะเร็ง : หูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ/ทวารหนัก/ขาหนีบ
มะเร็งอวัยวะเพศชาย/ทวารหนัก/ลำคอ/ช่องปาก ตามอวัยวะที่สัมผัสเชื้อ
(ฉะนั้น การฉีดวัคซีน HPV ของผู้ชายคนหนึ่ง นอกจากจะมีประโยชน์ต่อผู้ฉีดเองแล้ว
แม้ว่าข้อมูลจะไม่ชัดเจนว่ามีประโยชน์ต่อคู่นอนหญิงหรือไม่ แต่คู่นอนชายคงจะได้ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนนี้ด้วย)

หากจะกล่าวให้ชัดเจนขึ้นในประเด็น วัคซีน HPV กับผู้ชาย
(ก่อนกล่าวถึง เกิร์ลขอออกตัวก่อนว่าเกิร์ลเขียนบล๊อกนี้ขึ้นด้วยตัวเอง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทยาใดๆทั้งสิ้น)
วัคซีน HPV ในประเทศไทยมี 2 ยี่ห้อ คือ Cervarix ของบ.GSK และ Gardasil ของ บ.MSD
โดยที่ยี่ห้อ  Cervarix ป้องกัน HPV ชนิด 16 และ 18
ส่วนยี่ห้อ Gardasil ป้องกัน HPV ชนิด 6, 11, 16 และ 18
ฉะนั้นในกรณีของผู้ชาย การฉีดวัคซีน HPV ยี่ห้อ Gardasil จะให้ประโยชน์มากกว่า
เพราะแม้ว่าชนิด 6, 11 จะไม่มีส่วนป้องกันมะเร็งที่อวัยวะต่างๆตามที่กล่าวมา
แต่ชนิด 6 และ 11 ก็เป็นชนิดที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งเป็นโรครักษาได้ยาก แต่กลับมาเป็นได้ง่าย
(มีข้อมูลว่า ผู้ป่วยที่รักษาหูดหงอนไก่ได้แล้วจะกลับมาเป็นอีกภายใน 1 ไตรมาส คือ 3 เดือน ประมาณ 25% )


ค่ะ ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า ไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกมาจากอวัยวะเพศชาย
ก็มาพูดถึงข้อที่สองกันเลยนะคะ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว จะได้รับประโยชน์อะไรจากการฉีดวัคซีน HPV ไหม?
ทั้งได้รับประโยชน์ และไม่ได้รับประโยชน์ค่ะ

การติดไวรัส HPV นั้น ติดแบบผิวหนังสัมผัสผิวหนังได้
นั่นหมายความว่า แม้สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ผ่านถุงยางอนามัยในทุกๆครั้ง ก็ยังมีโอกาสได้รับไวรัส HPV ได้
สตรีที่มีเพศสัมพันธ์โดยการถูไถอวัยวะเพศชายภายนอกโดยไม่สอดใส่ ก็ยังมีโอกาสได้รับไวรัส HPV ได้
โอกาสที่กล่าวถึงนี้ แม้จะไม่มากเท่าการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน แต่โอกาสยังอยู่ในเกณฑ์"ไม่น้อย"
ฉะนั้น การที่ฝ่ายชายมีเพศสัมพันธ์ หรือสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่น ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่
ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ภรรยามีโอกาสได้รับไวรัส HPV จากการนอกใจของสามีเพิ่มขึ้น
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมข้อมูลสาเหตุการเป็นมะเร็งปากมดลูก ถึงมีปัจจัยการมีคู่นอนหลายคน ประกอบอยู่ด้วย
แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว จะได้รับประโยชน์หร่อไม่ได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีน HPV
คำตอบคือ จะต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการค่ะ
แล้วเจ้าการตรวจทางห้องปฏิบัติการ มีทั้งแบบที่ บอกได้แค่ว่ามีเชื้อHPVหรือไม่
กับแบบที่บอกได้ว่า ติดเชื้อ HPV ชนิดใดบ้าง
ฉะนั้น ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรตรวจการติดเชื้อ HPV แบบที่บอกชนิดของเชื้อได้
(เกิร์ลมีข้อมูลทางเทคนิคการแพทย์น้อยมาก เท่าที่รู้ก็รู้เพียงคร่าวๆเพียงเท่านี้
และหากที่พอรู้มาไม่ผิด การตรวจทั้งสองแบบมีค่าใช้จ่ายไม่แตกต่างกันมากนัก)
เมื่อทราบชนิดของเชื้อ คุณหมอก็จะบอกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีน HPV หรือไม่

การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
เมื่อฉีดเข็มแรกไปแล้ว, 1-2 เดือนถัดไป ฉีดเข็มที่สอง และ 6 เดือนหลังจากเข็มแรก ฉีดเข็มสุดท้าย

มาถึงข้อแรกบ้างค่ะ
ในเมื่อสาเหตุเป้งๆของมะเร็งปากมดลูกมาจากอวัยวะเพศชาย 
สาวเวอร์จิ้นที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ยังไม่เคยสัมผัสอวัยวะเพศชายควรขึ้นขาหยั่งตรวจ Pap smear ไหม?
เอิ่ม อย่าหาว่าเกิร์ลหยาบคายเลยนะคะที่เป็นผู้หญิง พูดมาได้ไม่มียางอายว่าผู้หญิงสัมผัสอวัยวะเพศชาย
แหม่ พูดเลี่ยงๆว่าหลับนอนไม่ได้เลยหร้ออ
อย่างที่กล่าวไปค่ะว่า ไวรัสHPVนั้น ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก็ติดได้, ถูไถภายนอกก็ติดได้
มีหลายคนที่ถูไถอวัยวะเพศชายภายนอกหรือใช้ปาก แล้วคิดว่านั่นไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์
มีหลายคนมีนิยามคำว่าติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ ก็ต่อเมื่อสอดใส่อวัยวะเพศโดยไม่ป้องกันใดๆเท่านั้น
เกิร์ลจึงจำเป็นต้องพูดให้เคลียร์ เพื่อให้การสื่อสารเข้าใจตรงกัน
การกล่าวถึงเรื่องเพศสัมพันธ์นั้น ค่อนข้างเกี่ยวกับเรื่องยาน้อย
แต่สังคมไทยเรามองเพศสัมพันธ์ในมุมที่น่าอายที่จะคุยกันอย่างสร้างสรรค์
ทำให้การให้ข้อมูลทางออนไลน์เป็นช่องทางที่ผู้ต้องการข้อมูลเลือกใช้แยอะ
และที่ผ่านมาผู้เข้าอ่านบล๊อกเกิร์ลเกี่ยวกับเพศศึกษามีสัดส่วนที่ไม่น้อย
อะไรที่จะเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น เกิร์ลก็อยากทำ จึงขอพูดให้ชัดๆเคลียร์ๆไปเลยดีกว่า ไม่ว่ากันน้าค้าาา>_<
เอ้า กลับฝั่งกันค่ะ ฮุยเล ฮุยเล
อ้อ ตอนนี้เราเข้าใจตรงกันแล้วนะคะว่า คำว่ามีเพศสัมพันธ์สำหรับมะเร็งปากมดลูกนั้น
ครอบคลุมถึงการสัมผัสภายนอกโดยไม่สอดใส่ และมีเพศสัมพันธ์แบบใส่ถุงยางอนามัยด้วย
ประเทศไทย แนะนำผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้วทุกช่วงวัย ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ฉะนั้นสำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ >> หากเข้าข่ายอายุร่ายเพลงสามสิบยังแจ่ว ก็ควรตรวจPap smear 

หากใครเสิร์ชสาเหตุการเป็นมะเร็งปากมดลูก จะพบสาเหตุอื่นนอกจากเพศสัมพันธ์ เช่น สูบบุหรี่, ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ฯลฯ
ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ คือปัจจัยที่เพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น
ไม่ใช่ว่า ผู้หญิงทุกคนที่สูบบุหรี่ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกทั้งนั้น นะคะ
ปัจจัยต่างๆเหล่านั้น คือปัจจัยเสริม ไม่ใช่ปัจจัยหลัก

ที่เคยมีข้อมูลว่า การเข้าห้องน้ำก็เป็นมะเร็งปากมดลูกนั้น
ค่ะ..ผู้หญิงควรระมัดระวังเรื่องความสะอาดในการใช้ห้องน้ำสาธารณะ
แต่โอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกเพราะเข้าห้องน้ำนั้น มีโอกาสน้อย(ภายในวงเล็บน้อยมากๆ)
ควรระมัดระวัง เรื่องความสะอาด แต่ไม่ต้องวิตกจริตในประเด็นเป็นมะเร็งปากมดลูกจากการเข้าห้องน้ำ
หากจะกังวล ก็กังวลเรื่องความสะอาดประเด็นอื่นๆจะดีกว่า)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น