การใช้ผ้าปิดปาก หรือ Mask จึงไม่ได้ใส่เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส
แต่เป็นการป้องกันน้ำลาย การไอ การจามของผู้ป่วย
ผ้าปิดปากด้านนอกและด้านในมีความแตกต่างกันตรงที่
ด้านใน จะดูดซับของเหลวได้,
กล่าวคือถ้าผู้ใส่ไม่สบายแล้วไอจาม สิ่งคัดหลั่งจากตัวคนไข้จะถูกดูดซับไว้ ลดการฟุ้งกระจายไปยังผู้อื่น
ด้านนอก(ที่มีสีและแถบปิดจมูกพับลง) จะป้องกันการดูดซับของเหลว,
"ไม่ได้มีน้ำยาฆ่าเชื้อโรค" ผ้าปิดปากแบบนี้ป้องกันหรือฆ่าเชื้อโรคไม่ได้อยู่แล้ว
กล่าวคือถ้าผู้ใส่ถูกคนไข้จามใส่ ...
ผ้าปิดปากด้านนอกนี้จะไม่ดูดซับสิ่งคัดหลั่งจากคนไข้ ลดโอกาสติดเชื้อจากสิ่งคัดหลั่งคนไข้
การที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง หรือ Forward mail ที่ว่าคนป่วยต้องใส่กลับด้าน
เพราะด้านที่มีสีมีน้ำยาฆ่าเชื้อ??? ผู้ป่วยจึงต้องใส่ด้านนี้เข้าเพื่อฆ่าเชื้อ????????
จึงเป็นการใช้ผ้าปิดปากที่ไม่เหมาะสม
ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ผ้าปิดปากน้อยลงกว่าการใช้แบบถูกต้อง(คือไม่กลับด้าน)
เพราะเวลาไอจาม ผ้าปิดปากด้านนอกที่ตั้งใจใส่ให้เป็นด้านใน จะไม่ช่วยดูดซับอะไรเลย
สิ่งคัดหลั่งก็กระจายออกไปได้มากกว่าการใส่แบบที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ การที่ด้านนอกป้องกันการดูดซับของเหลว ก็มาจากการใส่สารลงไป
ผู้ใส่แบบกลับด้านเองจึงอาจจะระคายเคือง คัน หรือไม่สะดวกกับการใส่ผ้าปิดปาก
นอกจากนี้การใส่แบบกลับด้าน ยังทำให้ผ้าปิดปากไม่เหมาะสมกับสรีระ
รอยพับที่อยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง กักเก็บสิ่งสกปรก, สายยางรัดหูผิดที่ผิดทาง ทำให้ปกปิดไม่มิดชิด
ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้ลดลงด้วย
ผู้ป่วยไข้หวัด ที่ใส่ผ้าปิดปากด้วยวิธีที่ถูกต้อง
จะได้รับประโยชน์ต่อตนเองและเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นสูงที่สุด
ส่วนผู้ที่ไม่ป่วยแต่ต้องการใส่เพื่อป้องกันการติดโรคจากคนรอบข้าง
จะต้องใช้ผ้าปิดปากที่มีความสะอาด ถูกสุขอนามัย
การที่ผู้ไม่ป่วยใช้ผ้าปิดปากที่เก็บรวมกับข้ามของมากมาย จะก่อโรคได้มากกว่าป้องกันโรค
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น