อยากเปิดร้านยา มาทางนี้..เภสัขเกิร์ลมีข้อมูลจะบอก

.พี่เกิร์ล หนูอยากเรียนป.ตรีใหม่, เรียนป.ตรีเภสัชฯน่ะอยากเปิดร้านยา
.. เกิร์ล พี่จะต่อป.โทเภสัชล่ะ, อยากจะเปิดร้านยาเป็นของตัวเอง
... เกิร์ล มีร้านยาปล่อยเซ้ง, เกิร์ลแขวนป้ายให้พี่ได้ไหม?


หนึ่ง สอง สาม, สามสถานการณ์ด้านบนเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมว๊ากกก
ถ้าคุณเคยสงสัยใน 3 ประเด็ยข้างต้น, มาค่ะ เกิร์ลจะสาธยายสั้นๆ(สั้นจริงจริ๊งง)

1. ทุกคนสามารถเปิดร้านยาได้, 
เจ้าของร้านยาไม่จำเป็นต้องเภสัชกร
.อ้าาว งั้นหนูจะไปบอกให้แม่เปิดเดี๋ยวนี้เลย,
หนูอยากเปิดร้านยาเพราะแม่อยากได้
ได้เลยจ้า แต่ร้านหนูต้องมีเภสัชกรวิชาชีพประจำร้านและขึ้นทะเบียนร้านให้เรียบร้อยก่อน
มิเช่นนั้นร้านหนูจะผิดกฎหมาย
และขายได้แต่ยาสามัญประจำบ้าน
.สรุปคือร้านยาต้องมีเภสัชอยู่ดีหรอคะ
ใช่จ่ะ เภสัชเป็นคนทำงาน, หนูเป็นนายจ้าง
ถ้าจะไปเรียนป.ตรีใหม่ อยากให้หนูคิดดูให้ดีๆนะว่าคุ้มไหม
ถ้าหนูดูช่องทางดีๆ และทำมันให้ดี หนูก็มีรายได้อันน่าพึงพอใจจากการเป็นเจ้าของร้านยาของหนูได้
แล้วรายได้จากปริญญาใบนี้ของหนูอีกล่ะ
พระบิดาท่านกล่าวไว้ ว่าหากอยากรวย
อย่ามาเรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพ
และความเป็นจริง ก็เป็นเช่นนั้น นะจ้ะ

2. ผู้ที่เป็นเภสัชกรได้,
จะต้องจบป.ตรีเภสัชศาสตร์เท่านั้น
- ถ้าจบป.โท หรือป.เอกเภสัชศาสตร์
แต่ไม่ได้จบป.ตรีเภสัชศาสตร์
ก็ไม่ได้เป็นเภสัชกร
(เนื่องจากหลักสูตรที่เรียนเกี่ยวกับวิชาชีพ มีในป.ตรีเท่านั้น,
การเรียนป.โทและป.เอก เป็นการเรียนเจาะลึกเฉพาะเรื่องไปเท่านั้น)

3. ร้านยาตอนนี้เปิดกันเกลื่อนมาก,
ถามว่าแล้วร้านไหนอยู่ได้ ร้านไหนอยู่ไม่ได้
เท่าที่เกิร์ลรู้จักร้านยาที่เภสัชกรเป็นเจ้าของเอง จะไม่ค่อยเจ๊ง
แต่ที่เจ๊งกันแยอะๆ เป็นร้านยาแบบแขวนป้าย,
ร้านยาแบบแขวนป้าย คือการทำผิดกฎหมาย ซื้อใบประกอบฯจากเภสัชกรเพื่อให้เปิดร้านได้
แล้วจ้างลูกจ้างทั่วๆไป มาขายยาเพื่อหวังลดต้นทุน เพิ่มกำไร
 เช่นจ้าง แรงงานต่างด้าว, บัณฑิตคณะอื่น, อนุปริญญา, ประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช. ปวส.) หรือมัธยม

มีคำถามว่า นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ข้อเสียของร้านยาแขวนป้ายคืออะไร
เหตุผลสำคัญ คือการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล
กฎหมายกำหนดให้ผู้จ่ายยาคือเภสัชกรเพราะเป็นผู้ประกอบวิชาชีพโดยตรงด้านยา
ถ้าเป็นไปได้ที่ให้ใครก็ได้มาเทรนสูงสุด 3เดือนแล้วไม่เกิดโทษต่อผู้ใช้ยา ทำไมต้องสอนเภสัชกรกันนาน6ปี


เภสัชกรบางคน
อยากได้เงินโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
ก็ขายใบประกอบฯให้ร้านยาเอาไปแขวนป้าย
ทุกคนมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงิน
แต่ถ้ามีพี่น้องเภสัชกรแขวนป้ายได้มาอ่าน
เกิร์ลขอให้คุณพ้นพันธนาการนี้โดยไว

วิธีสังเกตร้านยาเถื่อนแบบง่ายๆ

คือดูจากป้ายปฏิบัติการ -->
 ถ้าร้านนั้นเปิดทั้งวัน แต่ในป้ายเขียนแค่บางช่วงเวลาเช่น 17-20.00น. มีโอกาสที่ร้านนั้นจะเป็นร้านยาเถื่อนได้สูง

ใครอยากเปิดร้านยา... 
เกิร์ลจึงขอแนะนำเลยค่ะ
1. ศึกษากฎหมายยาก่อน
ถ้าไม่รู้ช่องทางศึกษากฎหมายยา เกิร์ลขอสรุปตรงนี้คร่าวๆ
1.1 ยาที่ขายได้เลย คือยาสามัญประจำบ้าน
หากไม่ทราบนิยามของยาสามัญประจำบ้าน
ขอให้จินตนาการถึงยาที่ถวายพระ
ค่ะ นั่นคือยาสามัญประจำบ้าน
หรือเกิร์ลขอแนะนำไฟล์นี้, ไฟล์ข้อมูลที่คณะเภสัชศาสตร์แห่งที่สองของภาคใต้ได้เขียนไว้ค่ะ
1.2 ถ้าต้องการขายยาอื่นที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน
คุณจะต้องขึ้นทะเบียนร้านกับสสจ.(กรณีต่างจังหวัด)หรือเขต(กรณีกทม.)
แต่ก่อนที่คุณจะขึ้นทะเบียนได้ คุณจะต้องมีข้อ 2(เภสัชกรประจำร้าน) และ ข้อ 3(สถานที่ตั้งร้าน) ก่อน

เกิร์ลเชื่อว่า เมื่อมาถึงข้อนี้ไม่มีใครอยากขายแค่ยาสามัญประจำบ้าน
ทุกคนคงอยากขายยาอันตรายด้วย ยาควบคุมพิเศษด้วย
เกิร์ลชอบการใช้คำของกฎหมายมากค่ะ
"ยาอันตราย" จึงต้องใช้อย่างระมัดระวังให้สมเหตุผลภายใต้คำแนะนำของผู้ประกอบวิชาชีพ
"ยาควบคุมพิเศษ" จะต้องควบคุมการใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพมากเป็นพิเศษ


2. จะต้องมีเภสัชกรประจำตลอดเวลาเปิดร้าน
การหาเภสัชกร ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ, ตอนนี้คณะเภสัชศาสตร์เปิดเพิ่มกันแยอะ จะหาผู้ร่วมงานได้ไม่ยากเท่าอดีต
ประกอบกับเภสัชกรบางคนไม่ชอบงานราชการ
บางคนเรียนเภสัชศาสตร์บัณฑิตก็เพื่อจะเปิดร้านยาโดยตรง

เมื่อเรียนจบ มีบัณฑิตเภสัชศาสตร์ไม่น้อยหางานร้านยาเก็บเกี่ยวประสบการณ์
โดยที่ร้านยาทั่วไป มักตกลงเซ็นต์สัญญาการทำงานอยู่ที่ 1 ปี
เท่าที่พบเจอ เพื่อนหลายคนก็เป็นลูกจ้างจนครบสัญญา แล้วมาลงทุนเปิดร้านเอง
บางคนก็เป็นลูกจ้างไปเรื่อยๆ อย่างไม่คิดจะกำหนดระยะเวลา
ขึ้นกับว่าความพึงพอใจกับรายละเอียดร้านนั้นมากน้อยแค่ไหน

3. หาทำเล
เกิร์ลมั่นใจว่า ถ้าคุณมีทำเลที่ดีมากๆ ยังไงร้านยาของคุณก็ก่อกำไรได้มาก
ถ้าเราได้ทำเลดีๆ จ้างเภสัชเดือนละสี่ห้าหมื่นเรายังคงเหลือรายได้แยอะแยะมากมาย
(แต่โดยคร่าวๆ จ้างค่ารายเดือนอยู่ประมาณ 25K สำหรับผู้ที่เพิ่งจบใหม่ๆ
ยังไม่รวมค่าอื่นๆ เช่นโอที, ใบประกอบฯ, ...
(เภสัชกรที่สอบใบประกอบฯไม่ผ่าน ไม่สามารถจ่ายยาให้ลูกค้าได้นะคะ(ไม่ว่าจะที่โรงพยาบาลหรือร้านยา))
มาถึงตอนนี้ถ้ามีคำถามว่า แล้วจะต้องเสียเงินจ้างเภสัชทำไม
เกิร์ลขอถามกลับว่า แล้วคุณเลือกเปิดร้านยาทำไม? ใช่ไหมคะ?
ถ้าอยากได้แค่เงิน เชื่อเกิร์ลเถอะว่ามีอีกหลายธุรกิจที่ดีเริ่ดกว่าธุรกิจร้านยา

เมื่อได้ทำเล ได้เภสัชกรประจำร้าน ก็ดำเนินการตกแต่งร้านยา
ถ้าเสร็จเรียบร้อย ก็ดำเนินการทางเอกสารกับสสจ.
รายละเอียดในขั้นตอนนี้ อาจจะมีประเด็นที่ละเอียดมากขึ้น
เช่น พื้นที่ร้าน, สิ่งที่จะต้องมีในร้าน, ป้ายเภสัชกร, การอบรมกับสสจ.ก่อนเปิดร้าน, ด้านภาษี เป็นต้น

ซึ่งตรงนี้เกิร์ลขออภัยที่ไม่สามารถให้รายละเอียดเชิงลึกได้ เพราะเกิร์ลไม่เปิดร้านยา
แต่หากผู้สนใจจะเปิดธุรกิจร้านยามีข้อสงสัยประการใด ก็สอบถามเข้ามาได้ค่ะ
เกิร์ลก็มีเพื่อนหลายคนที่เป็นเจ้าของร้านยา
ถ้าเกิร์ลไม่รู้อะไร เกิร์ลจะถามเพื่อนมาตอบให้ค่ะ