ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
จะทำให้การตกไข่ล่าช้าไปและมูกที่ช่องคลอดเหนียวข้นขึ้น
ทำให้โอกาสที่ไข่มาเจอกับอสุจิแล้วฝังตัวที่มดลูกนั้นน้อยลง โอกาสท้องน้อยลง
หลายคนเข้าใจผิดว่า ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปขับตัวอ่อนที่ฝังตัวออกไป
ไม่ใช่นะคะ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ทำให้แท้ง, ถ้าตัวอ่อนฝังตัวแล้วทานยาไปก็ท้องค่ะ.
Q : ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินยังไงให้ลดโอกาสการตั้งครรภ์ให้เหลือน้อยที่สุด
A : เริ่มทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด แล้วทานเม็ดที่สองในอีก 12 ชั่วโมง
จดจำเวลาทานยาเม็กที่สองง่ายๆ คือ
ถ้าทานเม็ดแรก 6 PM, ก็ทานเม็ดที่สอง 6 AM
ถ้าทานเม็ดแรก 10.25 AM, ก็ทานเม็ดที่สอง 10.25 PM เป็นต้น
Q : กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?
A : ปริมาณที่มากที่สุดที่ทานยาคุมฉุกเฉินได้ใน 1 เดือนคือ 2 ครั้ง
แต่หากไม่ทานเลย หรือทานน้อยกว่านี้จะดีมากกว่า
เพราะยานี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ถูกข่มขืน หรือพลาดเช่นถุงยางแตก
ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นแยอะมาก
ไม่ใช่วิธีลดโอกาสการตั้งครรภ์ที่ควรคิดถึงเป็นวิธีแรก แต่ควรเป็นวิธีสุดท้ายเพราะอันตรายสูงมาก
Q : มีคนกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้วท้องไหม
A : มีค่ะ และมีอยู่เสมอๆ เพราะยาคุมกำเนิดลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ไม่มาก
คือลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าการทานยาคุมกำเนิดแบบปกติ หรือการใส่ถุงยางอนามัย
Q : ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแล้ว เมื่อไหร่ประจำเดือนจะมา?
A : นี่เป็นอีกคำถามหนึ่งที่ตอบได้ยาก
เพราะผลข้างเคียงหนึ่งของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคือ อาจทำให้รอบเดือนเปลี่ยนไป
ฉะนั้น หากถึงเวลาที่ประจำเดือนจะมาแล้ว ประจำเดือนยังไม่มา
สิ่งที่เกิร์ลแนะนำ คือ ใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ทดสอบว่าตั้งครรภ์หรือไม่
ถ้าไม่ท้อง อีกไม่นานประจำเดือนก็มา, ถ้าหากเครียด ประจำเดือนจะยิ่งเลื่อนไปอีก
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้น้อย แต่ผลข้างเคียงอันตรายมาก
หากไม่ฉุกเฉินจริงๆ อย่าใช้!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น